IELTS ข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษ

IELTS ข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษ

IELTS (International English Language Testing System) คือ ข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษครอบคลุมทักษะทั้ง  4 ด้าน คือ การฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด โดยผลสอบ IELTS เป็นที่ยอมรับจากองค์กรกว่า 10,000 แห่ง ครอบคลุมทั้งองค์กรภาครัฐ สถานศึกษาและสถาบันชั้นนำในหลายๆประเทศทั่วทุกมุมโลก

IELTS ข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ใช้ประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษ
IELTS Academic มีเป้าหมายหลักในการทดสอบวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ ซึ่งสามารถนำไปใช้ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ใช้ได้กับการศึกษาต่อในไทยในหลักสูตรนานาชาติรวมถึงการศึกษาต่อในต่างประเทศที่มีการใช้ภาษาอังกฤษหรือใช้สำหรับทำงานที่ต้องการทักษะภาษาอังกฤษขั้นสูง
IELTS General Training มุ่งเน้นไปที่การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ใช้สำหรับศึกษาต่อต่างประเทศในระดับที่ต่ำกว่าปริญญา หรือสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปแล้วข้อสอบจะวัดความรู้ภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐานเท่านั้น ข้อสอบจะไม่ซับซ้อนเท่าของ IELTS Academic

ข้อสอบ IELTS Academic  มี 4 parts

1. IELTS LISTENING

เวลา : 30 นาที (ข้อสอบ) , 10 นาที (เช็คคำตอบ) รวม 40 นาที
จำนวน : 40 ข้อ
 
ในส่วนของการฟังจะแบ่งออกเป็น 4 parts ย่อย
-บทสนทนาคน 2 คน (เรื่องทั่วไป)
-บทสนทนาของบุคคลคนเดียว(เรื่องทั่วไป)
-บทสนทนาแบบกลุ่ม (สูงสุด 4 คน) (หลากหลายหัวข้อ)
-บทพูดทางวิชาการ
*แต่ละส่วนอาจมีการเปลี่ยนแปลง และมีการใช้แผงผัง ไดอะแกรม แผนที่ และอื่นๆใส่ในคำถามเพื่อประกอบบทสนทนาสามารถหาแบบจำลองข้อสอบได้ทาง YouTube
 

2.IELTS SPEAKING

เวลา: 15 นาที
จำนวน: 3 ตอน
สนทนาแบบตัวต่อตัว
 
ตอนที่ 1: เป็นการถามเรื่องส่วนตัว เช่น ครอบครัว โรงเรียน งานที่ทำ ประเทศที่เกิด เพื่อน ชีวิตประจำวันและอื่นๆ
ตอนที่ 2: ผู้คุมสอบจะใช้ cue card ที่เป็นคำถาม พร้อมประเด็นให้พูด โดยให้ผู้สอบดู cue card และให้เวลาเตรียมตัว 1 นาที และพูดอีก 2 นาที
ตอนที่ 3: กรรมการจะถามคำถามเพิ่มเติมจาก cue card รวมถึงคำตอบที่เราตอบมาในตอนที่ 2 โดยลักษณะคำถามจะเกี่ยวข้องกับความคิดเห็น การวิเคราะห์ เพื่อทดสอบการพูดในเชิงนามธรรมมากขึ้น
 

3.IELTS READING

เวลา: 60 นาที
จำนวน: 40 ข้อ
 
โจทย์มีทั้งหมด 40 ข้อ โดยจะแต่ละข้อจะมีระดับความยากง่ายที่แตกต่างกันรวมถึงมีความหลากหลายรูปแบบในการตอบคำตอบ
-Sentence Completion (การเติมคำลงในประโยคเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์)
-Matching
-Multiple-Choice
-Answer questions (การตอบคำถามตามจำนวนคำที่คำสั่งกำหนด)
-การเติม True/False/Not Given หรือ Yes/No/Not Given
 

4. IELTS WRITING

เวลา: 60 นาที (รวม 2 ตอน)
จำนวนตอน: 2 ตอน
 
IELTS Writing Task 1 (150 คำ): โจทย์จะให้ Graph, chart, หรือ diagram โดยในข้อสอบส่วนนี้ผู้สอบจะต้องดูภาพที่โจทย์กำหนดให้มาและเขียนบรรยายด้วยคำตอบของตัวเอง ด้วยการวิเคราะห์ขั้นตอน เปรียบเทียบข้อมูล หรือวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆควรใช้เวลาประมาณ 20 -25 นาที เพื่อนำเวลาที่เหลือไปใช้ในพาร์ทถัดไป
IELTS Writing Task 2 (250 คำ): โจทย์จะตั้งหัวข้อเป็นเรื่องทั่วไป ให้ผู้ตอบเขียนแสดงความคิดเห็น เสนอวิธีการแก้ปัญหา เปรียบเทียบหาข้อโต้แย้งกับปัญหาที่โจทย์กำหนด ควรใช้เวลาประมาณ 35 – 40 นาที

IELTS General Training มี 4 พาร์ท

***พาร์ท 1. IELTS READING และ 2. IELTS SPEAKING จะเหมือนกับของ IELTS Academic

3. IELTS READING

เวลา: 60 นาที
จำนวน: 3 ตอน รวม 40 คำถาม
ตอนที่ 1: เป็นชุดข้อมูลสั้นๆ เกี่ยวกับเรื่องในชีวิตประจำวันเช่น ใบประกาศ ใบโฆษณา ตารางข้อมูลและอื่นๆ
ตอนที่ 2: บทความขนาดสั้น 2 บทความ บริบทเกี่ยวข้องการทำงานหรือข้อเท็จจริงต่างๆ
ตอนที่ 3: บทความขนาดยาวหนึ่งบทความเกี่ยวข้องเชิงธุรกิจ สภาพแวดล้อมและอื่นๆ

***โจทย์มีความแตกต่างจากของ IELTS Academic แต่วิธีการตอบจะยังคงเป็นแบบเดิมรวมถึงบทความโดยรวมจะสั้นและเนื้อหาง่ายกว่า


4. IELTS WRITING

เวลา: 60 นาที (รวม 2 ตอน)

จำนวน: 2 ตอน

IELTS Writing Task 1 (150 คำ): โจทย์จะให้สถานการณ์สมมติมา เป็นการให้ผู้สอบเขียนจดหมายเกี่ยวกับข้อมูลที่ได้รับ อาจจะเป็นจดหมายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือจดหมายอธิบายสถานการณ์ โดยอาจเป็นได้ทั้งเขียนแบบไม่เป็นทางการ กึ่งทางการหรือแบบทางการ

IELTS Writing Task 2 (250 คำ): โจทย์จะตั้งหัวข้อเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ให้เราเขียนแสดงความคิดเห็น ถกเถียงหรือกล่าวข้อดีข้อเสียและสนับสนุนความคิดเห็นดังกล่าวด้วยการยกตัวอย่าง เช่น กิจกรรมทัศนศึกษาของเด็ก ควรมีการจัดหรือไม่

แชร์ทริคการสอบ IELTS

1.ศึกษาให้ดีว่าผู้สอบควรสอบ IELTS รูปแบบใดและข้อสอบมีพาร์ทใดบ้าง

2.เลือกวันและเวลาที่ต้องการจะสอบเพื่อตรวจสอบว่าเหลือเวลาในการเตรียมตัวมากน้อยเท่าใด

3. เติมความรู้ให้พร้อมสอบ IELTS หากเหลือเวลาไม่มากลองให้คลังติวเตอร์ช่วยคุณหาติวเตอร์ดีๆเพื่อให้การเตรียมตัวสอบของคุณง่ายยิ่งขึ้น Line ID: @klangtutor

SHARE TO